5 วิธีป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายเมื่อเกิด “ไฟตก-ไฟช็อต” ช่วงฝนตก
- siamchai service
- 15 ส.ค.
- ยาว 1 นาที

ช่วงฝนตกทีไร ปัญหาไฟตก ไฟดับ หรือไฟช็อตก็มักจะตามมาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งนอกจากจะสร้างความลำบากแล้ว ยังเสี่ยงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงของคุณเสียหายถาวรได้อีกด้วย เพื่อไม่ให้ต้องเสียเงินซ่อมหรือซื้อใหม่ ลองทำตาม 5 วิธีป้องกันง่าย ๆ เหล่านี้
1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทันทีเมื่อเกิดไฟตก
หากสังเกตว่าไฟเริ่มหรี่ลงหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานช้าลง ให้รีบปิดเครื่องทันที เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟตกหรือไฟเกินที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไฟกลับมา
2. ถอดปลั๊กอุปกรณ์หลังใช้งานทุกครั้ง
แม้จะปิดสวิตช์แล้ว แต่กระแสไฟยังคงไหลเข้ามาได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟกระชากจากฟ้าผ่า หรือไฟฟ้าผันผวนจนเครื่องเสียหาย การถอดปลั๊กช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
3. ติดตั้งอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย
เช่น เบรกเกอร์, เครื่องตัดไฟรั่ว (ELCB), หรืออุปกรณ์ป้องกันไฟตก-ไฟกระชาก (Surge Protector) เพื่อช่วยตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดความผิดปกติ ลดความเสี่ยงไฟไหม้และเครื่องเสียหาย
4. ใช้เครื่องสำรองไฟ (UPS)
โดยเฉพาะกับอุปกรณ์สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องสำรองไฟจะช่วยให้คุณยังใช้งานต่อได้ชั่วคราว และมีเวลาปิดระบบอย่างปลอดภัยเมื่อไฟดับ
5. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบป้องกันในตัว
ปัจจุบันมีหลายรุ่นที่ติดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติหรือป้องกันไฟกระชากในตัว ช่วยให้คุณอุ่นใจกว่าแม้จะเกิดไฟตกหรือฟ้าผ่าใกล้บ้าน
การป้องกันง่าย ๆ เหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า และลดความเสี่ยงเสียเงินซ่อมหรือซื้อใหม่ได้มาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่สภาพอากาศและไฟฟ้ามักจะไม่คงที่ ขอขอบคุณแหล่งที่มา: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)



ความคิดเห็น